1. ข้ามสี่แยกต้องเปิดไฟฉุกเฉิน
การขับรถข้ามสี่แยกโดยเปิดไฟฉุกเฉินยังคงพบเห็นได้บ่อย แม้ว่าผู้ขับขี่จะมีเจตนาดีที่ต้องการแจ้งให้รถคันอื่นทราบว่าต้องการตรงไป แต่การกระทำดังกล่าวจะทำให้รถที่แล่นมาทางด้านข้างเข้าใจผิดคิดว่าเตรียมจะเลี้ยว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ การขับรถข้ามสี่แยกที่ถูกต้องนั้น เพียงแค่เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้รถทางหลักวิ่งผ่านไปก่อน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉินใดๆ ทั้งสิ้น แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้วครับ
2. เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดทุกสี่แยก
หลายคนเข้าใจผิดว่าการเลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกสามารถทำได้ตลอดทุกแยก แต่ตามกฎหมายแล้วสามารถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้ก็ต่อเมื่อมีป้ายระบุไว้เท่านั้น หากมีป้ายให้หยุดรอสัญญาณไฟ หรือสัญญาณไฟจราจรเลี้ยวซ้ายโดยเฉพาะ หรือแม้กระทั่งไม่มีป้ายใดๆ ติดตั้งไว้อยู่เลย ก็จำเป็นต้องรอสัญญาณไฟเขียวพร้อมกับทางตรงด้วยเช่นกัน
3. ไฟตัดหมอกใช้แทนไฟหน้าได้
ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไฟตัดหมอก ก็มีไว้สำหรับขับขี่เวลาที่มีหมอกลงจัดหรือฝนตกหนักเท่านั้น ไม่ควรเปิดใช้แทนไฟหลัก เพราะทั้งคู่มีวัตถุประสงค์ต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากไฟตัดหมอกมักออกแบบให้ส่องลงพื้น ทำให้ไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้สะดวกนัก ขณะที่ไฟตัดหมอกรถบางรุ่นถูกออกแบบให้ลำแสงพุ่งไปข้างหน้าคล้ายกับไฟสูง จึงอาจทำให้รถคันที่สวนมาเกิดอาการตาพร่ามัวได้
4. รถใหญ่ผิดเสมอ
หลายคนยังคงมีความคิดว่าหากรถมอเตอร์ไซค์ชนกับรถเก๋ง รถเก๋งจะกลายเป็นฝ่ายผิดเสมอ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่มีกฎหมายใดๆ บัญญัติไว้แบบนั้น เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา การตัดสินว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดนั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าแท้จริงแล้วฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท เช่น การติดตั้งกล้องหน้ารถ หรือเรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นต้น
5. ขับเร็ววิ่งขวาได้
หลายคนมีพฤติกรรมขับรถแช่ขวา เนื่องจากเห็นว่าขับรถด้วยความเร็วสูงสุดตามกฎหมายกำหนดแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลบซ้ายเพื่อให้รถที่เร็วกว่าแซงไป ซึ่งตามหลักกฎหมายนั้น ช่องทางด้านขวาบนถนนที่มีตั้งแต่ 2 เลนขึ้นไป มีไว้สำหรับแซงเท่านั้น แม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุดตามกำหนดแล้ว ก็มีความจำเป็นต้องหลบให้รถที่เร็วกว่าแซงไปอยู่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก http://auto.sanook.com/58493/